22 มีนาคม 2019
MOVING AVERAGE เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่
Moving Average (MA) หรือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ เป็นการคำนวณค่าเฉลี่ย (Average) จากกราคาโดยใช้ข้อมูลของกราฟราคา ย้อนหลังตามที่ระยะเวลาที่เรากำหนด เช่น ถ้าเราสนใจค่าของ Moving Average ระยะเวลาย้อนหลัง 5 วัน เราจะใช้ราคาปิดของแท่งเทียน 5 วันย้อนหลังนับจากวันปัจจุบัน หรือต้องการหาค่า Moving Average ระยะเวลาย้อนหลัง 10 วัน หมายความว่าเราจะใช้ราคาปิดของแท่งเทียน 10 วันย้อนหลังนับจากวันปัจจุบัน ซึ่งข้อมูลราคาหุ้นที่นิยมนำมาใช้คำนวณค่า Moving Average คือ ราคาปิดของกราฟราคา ตามเวลา (TimeFrame) ที่เราเลือกใช้งาน
ประเภทของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ Moving Average
Moving Average มีอยู่หลัก 3 ประเภท ดังต่อไปนี้
Simple Moving Average (SMA)
Weighted Moving Average (WMA)
Exponential Moving Average (EMA)
เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ Moving Average ทุกประเภทจะใช้หลักการเดียวกัน คือ การหาค่าเฉลี่ยของราคาแล้วนำมาวาดเป็นกราฟเส้นและวาดลงไปพร้อมกับกราฟของราคา แต่สิ่งที่แตกต่างกัน คือ " วิธีการคำนวณเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ " ซึ่งจะแบ่งออกเป็นการคำนวนแบบต่างๆ ดังต่อไปนี้
1.Simple Moving Average (SMA) จะถ่วงน้ำหนักในการหาค่าเฉลี่ยของข้อมูลเท่ากันทุกข้อมูล
2.Weighted Moving Average (WMA) จะถ่วงน้ำหนักในการหาค่าเฉลี่ยของข้อมูลไม่เท่ากันทุกข้อมูล โดยจะให้ความสำคัญกับข้อมูลที่เกิดขึ้นล่าสุดมากที่สุด ไล่ลำดับไปการถ่วงน้ำหนักน้อยลงไปตามลำดับข้อมูลที่เกิดขึ้น
3.Exponential Moving Average (EMA) จะถ่วงน้ำหนักในการหาค่าเฉลี่ยของข้อมูลไม่เท่ากันทุกข้อมูล เหมือนกับแบบ WMA แต่จะมีความแตกต่างกันที่ค่า EMA นั้นจะให้ความสำคัญกับค่า Smoothing Factor ในสูตรการคำนวณเส้น EMA (2/n+1) เป็นค่าที่ใช้ในการถ่วงน้ำหนัก
เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่นักลงทุนนิยมใช้ในการเทรดมี 2 แบบ คือ
1.Simple Moving Average (SMA)
2.Exponential Moving Average (EMA)
ประเภทของ Indicator
Moving Average เป็น Indicator ที่อยู่ในกลุ่มของ Trend ให้สัญญาณช้า
ค่ามาตราฐาน
เราจะได้พอที่จะรู้จักประเภทของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบต่างๆ ไปแล้ว คำถามต่อไปก็คือ แล้วแล้วค่าที่เราจะใส่ลงไปนั้นจะเป็นค่าเท่าไหร่ ? เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่นักลงทุนชอบใช้กันมาก มีค่ามาตราฐาน ในTime Frame Day (1วัน) ดังต่อไปนี้
เส้น Moving Average 5 วัน เปรียบเทียบได้กับการคิดเฉลี่ยย้อนหลัง 5 วันทำการ เท่ากับ 1 สัปดาห์
เส้น Moving Average 10 วัน เปรียบเทียบได้กับการคิดเฉลี่ยย้อนหลัง 10 วันทำการ เท่ากับ 2 สัปดาห์ (ประมาณครึ่งเดือน)
เส้น Moving Average 25 วัน เปรียบเสมือนการคิดเฉลี่ยย้อนหลัง 25 วันทำการ เท่ากับ 1 เดือน
เส้น Moving Average 50 วัน เปรียบเสมือนการคิดเฉลี่ยย้อนหลัง 50 วันทำการ เท่ากับ 2 เดือน
เส้น Moving Average 75 วัน เปรียบเสมือนการคิดเฉลี่ยย้อนหลัง 75 วันทำการ เท่ากับ 3 เดือน (1 ไตรมาส)
เส้น Moving Average 200 วัน เปรียบเสมือนการคิดเฉลี่ยย้อนหลัง 3ไตรมาส (โดยประมาณ)
ปล.นักลงทุนสามารถเลือกประยุกต์ใช้ใน Time Frame ต่างๆได้ตามมุมมองที่นักลงทุนเลือกใช้งาน
ประโยชน์ของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ Moving Average
การใช้งานเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่มีหลากหลายวิธี แล้วแต่มุมมองของนักลงทุนแต่ละคนเลือกที่จะนำไปใช้งาน และนักลงทุนส่วนใหญ่นิยมนำมาใช้งานมีอยู่ 3 แบบดังต่อไปนี้
1. ใช้เป็นเครื่องมือในการบ่งบอกแนวโน้ม (Trend)
จากภาพ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 (Time Frame 1 ชั่วโมง) ที่มีลัษณะเอียงลาดลง บ่งบอกถึงแนวโน้มกราฟราคาที่เป็นแนวโน้มขาลง
จากภาพ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 (Time Frame 4 ชั่วโมง) ที่มีลัษณะเอียงชันขึ้น บ่งบอกถึงแนวโน้มกราฟราคาที่เป็นแนวโน้มขาขึ้น
2. ใช้เป็นเครื่องมือในการบ่งบอกแนวรับแนวต้าน (Support & Resistance Line)
จากภาพ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ EMA 200 (Time Frame 4 ชั่วโมง) เป็นแนวต้านของราคาไม่สามารถทะลุขึ้นไปสูงกว่าเส้น EMA ได้
จากภาพ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ EMA 200 (Time Frame 1 ชั่วโมง) เป็นแนวรับของราคาไม่สามารถทะลุต่ำลงกว่าเส้น EMA ได้
3. ใช้เป็นเครื่องมือในการหาจุดเข้าซื้อ (Buy Order & Sell Order)
จากภาพ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ EMA 25 ตัดลง กับเส้น EMA 50 เป็นสัญญาณในการเปิด Sell Order เพราะราคามีแนวโน้มที่จะวิ่งต่ำลง
จากภาพ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ EMA 25 ตัดขึ้นผ่านเส้น EMA 50 เป็นสัญญาณในการเปิด Buy Order เพราะราคามีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้น
สรุป
Moving Averag เป็น Indicator ที่ให้สัญญาณช้า ซึ่งเวลาเกิดการเปลี่ยนแนวโน้มของกราฟราคาไปแล้ว ตัว Indicator ถึงจะมีสัญญาณบ่งบอกให้เข้าเปิด Order ส่วนใหญ่แล้ว Moving Average จะใช้ในการบ่งบอกแนวโน้มของราคาเป็นหลัก แต่ก็มีการนำมากำหนดใช้ในกลยุทธ์ต่างๆ กัน ได้หลากหลายรูปแบบ ตามความถนัดของนักลงทุนที่มีมุมมองสไตล์การเทรดแตกต่างกันออกไป นักลงทุนที่ต้องการนำไป Moving Average แบบต่าง ๆ ไปใช้งานควรศึกษาและฝึกฝน ทดลองการนำไปใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อการเทรดที่มีประสิทธิภาพและอยู่ในตลาดได้ในระยะยาว
หากข้อมูลผิดพลาดประการใด ทาง fxpfx-learning.com ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
และหากมีข้อแนะนำเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ website www.fxpfx-learning.com
! ไม่มี Indicator ตัวใดที่ให้ผลได้แม่นยำ 100 % และในการวิเคราะห์ทางเทคนิค Indicator มักจะมีสัญญาณที่ผิดพลาดได้ นักลงทุนควรจะมีการบริหารจัดการพอร์ตการลงทุน และการกำหนดจุดตัดขาดทุนเพื่อที่จะบริหารความเสี่ยงของเหตุการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ในการเทรด Forex