23 มีนาคม 2019
Fibonacci เป็นเครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) ที่จะใช้คาดการณ์แนวรับแนวต้านที่มีโอกาสที่จะเกิดขึ้น ซึ่งหลายๆคนคงได้ยินชื่อของ Fibonacci กันมาบ้าง แต่ก็ยังสงสัยว่ามันมีวิธีใช้ยังไงและตัวเลขแต่ละตัวเลข ทำไมต้องเป็นตัวเลข 0 , 23.6 , 38.2 , 50 , 61.8 ,78.6 , 100 , 161.8 ?
Fibonacci ถูกตั้งตามชื่อของ นักวิทยาศาสตร์ ชาว อิตาลี่ ชื่อ ลีโอนาโด ฟิโบนาซี ผู้ค้นพบตัวเลขนี้ เขาได้ศึกษารูปแบบของสิ่งต่างๆ รอบตัว เช่น ดอกไม้ หอย ฟ้าแลบ ใบหน้าของมนุษย์ , เปลือกหอย, กาแลคซี, ดอกไม้ อัตราส่วนต่าง ๆ มีเกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มตัวเลขดังต่อไปนี้
ลักษณะพิเศษของตัวเลข Fibonacci
Fibonacci คือ อัตราส่วนของตัวเลขที่สอดคล้องกับสัดส่วนตามธรรมชาติของสิ่งต่างๆ ในจักรวาล ดังนั้น อัตราส่วนเหล่านี้จึงถูกเรียกว่า " อัตราส่วนทองคำ "
1. ถ้านำตัวเลขในตัวหน้าหารด้วยตัวเลขตัวหลัง ไล่ลำดับไปแต่ละคู่ตัวเลข Fibonacci จะได้ค่าใกล้เคียงกับ 0.618 เช่น 377/233 = 0.618 , 55/89 = 0.618
2. ถ้านำตัวเลขในตัวหลังหารด้วยตัวเลขตัวหน้า (ตั้งแต่ตัวเลข 5 เป็นต้นไป) ไล่ลำดับไปแต่ละคู่ตัวเลข Fibonacci จะได้ค่าใกล้เคียงกับ 1.618 เช่น 34/21 = 1.619 , 89/55 = 1.618 , 610/377 = 1.618
3. ถ้านำตัวเลขในตัวหน้าหารด้วยตัวเลขตัวหลังตัวที่ 2 ไล่ลำดับไปแต่ละคู่ตัวเลข Fibonacci จะได้ค่าใกล้เคียงกับ 0.382 เช่น 5/13 = 0.384 , 34/89 = 0.382 , 233/610 = 0.382
4. ถ้านำตัวเลขในตัวหลังหารด้วยตัวเลขตัวหน้าตัวที่ 2 ไล่ลำดับไปแต่ละคู่ตัวเลข Fibonacci จะได้ค่าใกล้เคียงกับ 2.618 เช่น 21/8 = 2.625 , 89/34 = 2.618 , 377/144 = 2.618
การเคลื่อนไหวต่าง ๆ ของกราฟราคา มีแนวโน้มที่จะมีความสอดคล้องกับอัตราส่วน Fibonacci ดังตัวเลขต่างๆ ดังต่อไปนี้ 0 , 23.6 , 38.2 , 50 , 61.8 , 78.6 , 100 , 161.8 เป็นต้น จึงทำนักลงทุนนำตัวเลข Fibonacci มาประยุกต์ใช้เป็นเครื่องมือในการบอกแนวรับแนวต้าน และเป็นเครื่องมือที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย
การนำมาตัวเลข Fibonacci มาประยุกต์ใช้
ในการซื้อขายในตลาด Forex ได้มีการนำตัวเลข Fibonacci มาประยุกต์ใช้ในการซื้อขายโดยการนำตัวเลขต่าง ๆ ของ Fibonacci มากำหนดสัดส่วนในการเคลื่อนไหวของกราฟราคา การหาแนวรับแนวต้านที่ราคาจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางใด ดังตัวอย่างต่อไปนี้
จะเห็นได้ว่า การเคลื่อนไหวของกราฟราคาของคู่สกุลเงิน GBPAUDm ใน Time Frame 1 ชั่วโมง(H1) ราคาได้มีแนวรับแนวต้านอยู่ในตัวเลข Fibonacci ดังภาพ โดยกรอบแนวต้าน ( Support Line ) อยู่ที่ Fibonacci 78.6 = 1.86876 และแนวรับ ( Resistance Line ) อยู่ที่ 61.8 = 1.86129
ประเภทของ Fibonacci
การลากหาเส้น Fibonacci มีหลายรูปแบบ ในโปรแกรม MT4 มีให้เลือกใช้งานอยู่ 5 แบบ ดังต่อไปนี้
ตัวอย่างการใช้เครื่องมือ Fibonacci ในการหาแนวโน้มของกราฟราคา
เส้น Fibonacci มีการลากเส้นหลากหลายรูปแบบแต่ที่นักลงทุนนิยมใช้กันอย่างมาก ก็คือเส้น Fibonacci Retracement ( การเด้งกลับ ) นิยมใช้หาแนวรับแนวต้านของราคา ทาง FXpfx-Learning.com จะขออธิบายการใช้งาน เส้น Fibonacci Retracement ที่นิยมใช้งานเป็นตัวอย่างเพียง 1 ตัวอย่าง ดังนี้
การนำเครื่องมือ Fibonacci Retracement ใช้ในการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของกราฟราคานั้น นักลงทุนจะต้องรู้ว่ากราฟราคานั้นเป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) หรือแนวโน้มขาลง (Down Trend) หรือ แนวโน้มพักตัว (Sideway) เมื่อรู้แล้วว่ากราฟราคาเป็นแน้วโน้มอะไร ให้หาจุดสูงสุด และจุดต่ำสุดของราคา เพื่อลากเส้น Fibonacci โดยใช้วิธีการดังนี้
1.ถ้ากราฟราคาเป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) ให้ลากเส้นจากจุดสูงสุด – มายังจุดต่ำสุด (Swing High to Swing Low) การสังเกตเส้น Fibonacci 100.0 จะอยู่ที่จุดสูงสุด ( Swing High ) และ เส้น Fibonacci 0.0 จะอยู่ที่จุดต่ำสุด ( Swing Low )
2.ถ้ากราฟราคาเป็นแนวโน้มขาลง (Downtrend) ให้ลากเส้นจากจุดต่ำสุด – ไปยังจุดสูงสุด (Swing Low to Swing High) การสังเกตเส้น Fibonacci 100.0 จะอยู่ที่จุดต่ำสุด ( Swing Low ) และ เส้น Fibonacci 0.0 จะอยู่ที่จุดสูงสุด ( Swing High )
สรุปเครื่องมือเทรด Fibonacci
Fibonacci เป็นเครื่องมือเทรดที่เหล่านักลงทุนนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย หน้าที่ของ Fibonacci หลักๆ ก็คือ ใช้บอกแนวรับแนวต้านของกราฟราคา โดยจะใช้ตัวเลขสัดส่วนของ Fibonacci มาเป็นตัวบ่งบอกถึงสัดส่วนของแนวรับแนวต้านของกราฟราคา ซึ่งมีกลุ่มตัวดังนี้ 0 , 23.6 , 38.2 , 50 , 61.8 ,78.6 , 100 ,161.8 เป็นต้น คิดเป็น % แล้วเทียบกับกราฟราคา และในปัจจุบันตัวเลข Fibonacci มีการนำไปประยุกต์ใช้อย่างแพร่หลาย ซึ่งในโปรแกรมเทรด MT4 มีให้เลือกใช้ 5 แบบ นักลงทุนสามารถนำไปใช้งานและฝึกฝนทักษะการใช้ Fibonacci เพื่อหาแนวรับแล้วต้านได้ ซึ่งจะนำไปใช้ในการกำหนดกลยุทธ์การซื้อขายของนักลงทุนที่จะต้องมีการกำหนดความเสี่ยง(Risk), ผลกำไร(Profit), และจุดตัดขาดทุน(Stopp Loss) ได้
หากข้อมูลผิดพลาดประการใด ทาง fxpfx-learning.com ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
และหากมีข้อแนะนำเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ website www.fxpfx-learning.com
! ไม่มี Indicator ตัวใดที่ให้ผลได้แม่นยำ 100 % และในการวิเคราะห์ทางเทคนิค Indicator มักจะมีสัญญาณที่ผิดพลาดได้ นักลงทุนควรจะมีการบริหารจัดการพอร์ตการลงทุน และการกำหนดจุดตัดขาดทุนเพื่อที่จะบริหารความเสี่ยงของเหตุการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ในการเทรด Forex